การเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากมีตัวเลือกมากมายและข้อมูลที่ต้องพิจารณาอย่างละเอียด อย่างไรก็ตาม ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ว่ามีความหมายอย่างไร และฉลากแบบใหม่ในปี 2567 จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงระดับการใช้พลังงานของเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานสูง ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้ไฟฟ้าในระยะยาว นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในระดับประเทศ
- ช่วยในการตัดสินใจ: ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบประสิทธิภาพการใช้พลังงานของผลิตภัณฑ์แต่ละรุ่นได้
- ลดค่าใช้จ่าย: การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากประหยัดไฟสามารถช่วยลดค่าไฟฟ้าในระยะยาว
- ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน: การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงช่วยลดการใช้พลังงานโดยรวม
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ประกอบไปด้วยข้อมูลสำคัญหลายอย่างที่ช่วยให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงคุณสมบัติและประสิทธิภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ดียิ่งขึ้น โดยข้อมูลหลัก ๆ ที่ปรากฏบนฉลาก ได้แก่
- ระดับความประหยัด: แสดงถึงระดับการประหยัดพลังงาน โดยทั่วไปจะมีการแบ่งระดับตั้งแต่ไม่มีดาวถึงสามดาว ยิ่งมีดาวมาก ยิ่งแสดงถึงความสามารถในการประหยัดพลังงานมากขึ้น
- ประเภทของผลิตภัณฑ์: บอกประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อยู่บนฉลาก เช่น ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ หรือเครื่องซักผ้า
- ค่าไฟฟ้าที่ใช้ต่อปี: ข้อมูลนี้ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถประมาณค่าใช้จ่ายในการใช้ไฟฟ้าของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ได้
- ข้อมูลผลิตภัณฑ์: เช่น ยี่ห้อ รุ่น และขนาดของเครื่องใช้ไฟฟ้า
- ค่าประสิทธิภาพ: เปรียบเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน
- เว็บไซต์โครงการ: เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฉลากนี้ได้
การจัดการด้านการใช้ไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า Demand Side Management (DSM) เป็นโครงการที่ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2534 และเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2536 ภายใต้ชื่อ “โครงการประชาร่วมใจ ประหยัดไฟฟ้า” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการ “ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5”ในปัจจุบัน กฟผ. ยังคงดำเนินโครงการ "ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5" อย่างต่อเนื่อง โดยมีการประสานงานกับนโยบายของกระทรวงพลังงาน เพื่อสร้างมาตรฐานในการประหยัดพลังงาน โดยร่วมเป็นคณะทำงานที่ดูแลฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ซึ่งได้รับการกำกับดูแลโดยกระทรวงพลังงานในรูปแบบใหม่
ในปี 2567 จะมีการปรับปรุงฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ใหม่ โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบและข้อมูลที่ปรากฏบนฉลาก เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้น และสามารถตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยมีการปรับเปลี่ยนดังนี้
- ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จะมีการปรับเกณฑ์จากเดิมที่มีระดับ 1-3 ดาว เป็น 1-5 ดาว ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงและช่วยประหยัดพลังงานได้มากยิ่งขึ้น
- ฉลากใหม่จะมีการแสดงปริมาณการลดการปล่อย CO2 ตลอดช่วงการใช้งาน เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถมีส่วนร่วมในการลดโลกร้อนจากการเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
- จะมีการเพิ่มสัญลักษณ์ที่แสดงถึงกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Circular Economy) เพื่อขยายบทบาทของฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จากขั้นตอนการเลือกซื้อไปสู่การดูแลตลอดวงจรชีวิต (Life Cycle) ของอุปกรณ์
- เพิ่ม QR Code บนฉลากเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น เช่น วิธีการใช้งาน การติดตั้ง และการบำรุงรักษา รวมถึงข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์อื่น ๆ
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยให้ผู้บริโภคเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูง ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงานในระยะยาว นอกจากนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การเข้าใจรายละเอียดต่าง ๆ ของฉลากนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคนที่ต้องการทำให้บ้านของตนเองเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและประหยัดค่าใช้จ่ายในเวลาเดียวกัน
ดูความรู้เกี่ยวกับแอร์เพิ่มเติมได้ทาง :
https://www.facebook.com/photo/?fbid=920339413471925&set=a.714511537388048