ในยุคที่คุณภาพอากาศเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพ ระบบ HEPA Filter หรือ High Efficiency Particulate Air กลายมาเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะระบบ HEPA Filter จะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคภูมิแพ้และปัญหาทางเดินหายใจ ทำให้ผู้คนสามารถหายใจได้สะดวกขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
HEPA (High Efficiency Particulate Air) Filter เป็นแผ่นกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงในการดักจับอนุภาคขนาดเล็ก โดยสามารถกรองฝุ่นและสารปนเปื้อนในอากาศได้ถึง 99.97% สำหรับอนุภาคที่มีขนาด 0.3 ไมครอน ซึ่งรวมถึงฝุ่นละออง เชื้อแบคทีเรีย และไวรัสที่ลอยอยู่ในอากาศ ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ HEPA Filter จึงถูกนำไปใช้ในหลากหลายสถานที่ เช่น โรงพยาบาล ห้องคลีนรูม และเครื่องฟอกอากาศในบ้าน
1. การกรองอนุภาคขนาดเล็ก: HEPA Filter สามารถดักจับอนุภาคที่มีขนาดเล็กมาก เช่น ฝุ่น PM2.5 ละอองเกสร เชื้อโรค และสารก่อภูมิแพ้ ทำให้คุณภาพอากาศดีขึ้น
2. ลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ: การใช้ HEPA Filter ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคระบบทางเดินหายใจและโรคภูมิแพ้ เนื่องจากสามารถกำจัดสารก่อภูมิแพ้และเชื้อโรคได้
3. เหมาะสำหรับผู้ป่วย: เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการหอบหืดหรือป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ เพราะช่วยให้หายใจได้สะดวกขึ้น
HEPA Filter ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการกรองอากาศ โดยอธิบายได้ง่าย ๆ ผ่าน 4 กลไกหลัก ดังนี้
1. การดักอนุภาคขนาดใหญ่ (Sieving)
อนุภาคที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าช่องว่างระหว่างเส้นใยของแผ่นกรองจะถูกดักไว้ทันที คล้ายกับการกรองน้ำผ่านตะแกรง โดยอนุภาคที่มีขนาดตั้งแต่ 5 ไมครอน ขึ้นไปจะไม่สามารถผ่านไปได้ ซึ่งทำให้ระบบกรองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. แรงเฉื่อย (Inertia Impaction)
อนุภาคที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงจะชนกับเส้นใยของแผ่นกรอง เพราะไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางตามกระแสลมได้ กลไกนี้จะทำงานได้ดีมากกับอนุภาคที่มีขนาด 1 ไมครอน ขึ้นไป เปรียบเสมือนรถที่ขับเร็วเกินไปจนเลี้ยวไม่ทันและชนต้นไม้
3. แรงยึดเหนี่ยว (Interception)
อนุภาคที่มีขนาดเล็กและเบาจะเคลื่อนที่ตามกระแสลม เมื่อเข้าใกล้เส้นใย อนุภาคเหล่านี้จะถูกแรงยึดเหนี่ยว (Van der Waals Force) ดึงให้ติดกับเส้นใย ซึ่งกลไกนี้เหมาะสำหรับอนุภาคที่มีขนาดระหว่าง 0.1-1 ไมครอน
4. การกระจายตัว (Diffusion)
อนุภาคที่มีขนาดเล็กมาก (ต่ำกว่า 1 ไมครอน) จะเคลื่อนที่แบบไร้ทิศทาง (Brownian Motion) ทำให้โอกาสในการสัมผัสและติดกับเส้นใยสูงขึ้น เหมาะกับการกรองอนุภาคขนาดเล็กที่สุด อย่างเช่นฝุ่น PM2.5 ได้เป็นอย่างดี
ดังนั้น การที่ HEPA Filter สามารถดักจับอนุภาคทั้งขนาดใหญ่และเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่าน 4 กลไกหลัก ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการกรองฝุ่นละอองในอากาศ เหมาะสำหรับการใช้งานในสถานที่ต่าง ๆ ที่ต้องการอากาศบริสุทธิ์ เช่น บ้าน โรงพยาบาล และโรงงานอุตสาหกรรม
สิ่งที่เครื่องปรับอากาศ Midea ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากก็คือสุขภาพของทุกคน โดยได้พัฒนาเทคโนโลยี Air Magic - Super IONIZER and Bio HEPA Filter เพื่อช่วยสร้างบรรยากาศที่สะอาดและสดชื่นสำหรับผู้ใช้งาน
คุณสมบัติของเทคโนโลยี Air Magic
1. Bio HEPA Filter: เทคโนโลยีแผ่นกรอง 2 ชั้น ที่มีประสิทธิภาพในการกรองสสารอันตราย เช่น PM2.5 แบคทีเรีย และไวรัส ทำให้มั่นใจได้ว่าอากาศที่ผ่านการกรองจะสะอาดและปลอดภัยต่อสุขภาพ
2. การทำงานร่วมกัน: ระบบ Ionizer และ Bio HEPA Filter ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ โดย Ionizer จะช่วยลดอนุภาคในอากาศก่อนที่จะถูกกรองโดย Bio HEPA Filter ซึ่งทำให้การกรองมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
- สุขภาพที่ดี: การใช้แอร์ Midea ที่มีเทคโนโลยี Air Magic จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับอากาศบริสุทธิ์และสดชื่น ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพ
- ลดความเสี่ยงต่อโรค: การกรองอนุภาคขนาดเล็กและเชื้อโรคช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคระบบทางเดินหายใจและโรคภูมิแพ้
- ความสะดวกสบาย: ผู้ใช้งานสามารถมั่นใจได้ว่าในทุก ๆ การหายใจจะได้รับอากาศที่สะอาด ปลอดภัย และสดชื่น
เพื่อให้ระบบ Bio HEPA Filter ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ใช้งานควรปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลรักษาดังนี้
1. ตรวจสอบสภาพฟิลเตอร์: ควรตรวจสอบสภาพฟิลเตอร์เป็นประจำ เพื่อดูว่ามีการสะสมของฝุ่นหรือไม่ หากพบว่าฟิลเตอร์สกปรก ควรทำความสะอาดหรือเปลี่ยนใหม่ตามคำแนะนำของผู้ผลิต
2. ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ: ควรทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นและสิ่งสกปรก
3. เปลี่ยนฟิลเตอร์ตามกำหนด: ฟิลเตอร์ควรเปลี่ยนตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้เครื่องทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
HEPA Filter เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศโดยการกรองอนุภาคขนาดเล็ก และ Midea ได้พัฒนาเทคโนโลยี Air Magic - Super IONIZER and Bio HEPA Filter มาใช้ร่วมกัน เพื่อที่จะสามารถมั่นใจได้ว่าทุกคนจะได้รับอากาศที่สะอาดและสดชื่น คุณสามารถมั่นใจในการเลือกใช้แอร์ Midea ของเราได้อย่างแน่นอน